ต่อไปนี้เป็นการเปรียบเทียบเตียงเด็กสามแบบทั่วไป:
เตียงต่อไม้เนื้อแข็ง
ข้อดี: มีเสถียรภาพดีและรับน้ำหนักได้ดี
ขนาดที่ปรับแต่งได้และอายุการใช้งานยาวนาน
ปรับความสูงได้และเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อกับเตียงขนาดใหญ่
ข้อเสีย : กินพื้นที่ และไม่เหมาะกับอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็ก
ราวกั้นต่ำเกินไปและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัย
เตียงไม้เนื้อแข็งอเนกประสงค์
ข้อดี: มีเสถียรภาพดีและรับน้ำหนักได้ดี
ความสูงของราวกั้นสามารถปรับได้หลายระดับและเคลื่อนย้ายได้ง่าย
สามารถแยกต่อเล่นได้ ไม่หลุดง่าย
ข้อเสีย : ไม่สามารถพับได้ และไม่สะดวกต่อการจัดเก็บ
เตียงเด็กพับได้
ข้อดี : พับเก็บได้ ไม่เปลืองพื้นที่
ติดตั้งง่ายและจัดเก็บง่าย
สามารถเชื่อมต่อแยกอิสระและเคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อเสีย: ความเสถียรต่ำและการรองรับที่ไม่ดี
พื้นผิวผ้าสกปรกง่ายและทำความสะอาดไม่สะดวก
สิ่งที่ต้องใส่ใจในการซื้อเตียงเด็ก:
ดูที่วัสดุ:ไม้เนื้อแข็งเป็นวัสดุที่นิยมใช้เนื่องจากมีโครงสร้างที่มั่นคงและมีปัจจัยด้านความปลอดภัยสูง ไม้บีชเป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุดและทนต่อแรงกระแทกได้ดี หลีกเลี่ยงการเลือกแผ่นไม้คอมโพสิตและวัสดุที่ติดกาวเพื่อป้องกันฟอร์มาลดีไฮด์เกินมาตรฐาน เลือกโครงเตียงที่เคลือบด้วยน้ำมันขี้ผึ้งไม้ซึ่งไม่มีสารเคมีอันตราย
ดูขนาด:เตียงที่มีความกว้าง >60cm และความยาว >100cm สามารถใช้งานได้นานขึ้น ช่องว่างระหว่างรั้วเตียงควรอยู่ระหว่าง 4-6cm เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยติดเตียง หลังจากวางที่นอนแล้ว ความสูงที่เหลือของราวกั้นเตียงควรอยู่ระหว่าง >30cm เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยตกลงมา ช่องว่างระหว่างที่นอนและราวกั้นเตียงไม่ควรเกิน 1cm เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยติดเตียง
มาดูฟังก์ชั่น:พิจารณาจากความเสถียรและความปลอดภัย ให้ดูที่การใช้งาน เตียงอเนกประสงค์ ซู่ๆๆ เตียงต่อ ซู่ๆๆ เตียงเด็กแยกอิสระ ซึ่งสะดวกสำหรับการดูแลทารกและมีอายุการใช้งานยาวนาน เลือกโครงเตียงที่มีความสูงปรับได้ เมื่อทารกเติบโตขึ้น ราวเตียงจะต้องยกขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลือกโครงเตียงที่มีล้อสากลและเบรกเพื่อให้เคลื่อนย้ายและยึดได้ง่าย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม:เลือกที่นอนที่มีความแข็งและนุ่มปานกลาง ที่นอนที่นุ่มเกินไปไม่เหมาะกับเด็กและไม่ปลอดภัย ตัวเตียงทั้งหมดเรียบและปราศจากเศษเสี้ยนเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กถูกแทง ไม่มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ บนเตียงเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าของเด็กไปเกี่ยวติดจนเกิดอันตราย